Pak Kung Au เป็นเส้นทางพาดผ่านภูเขาที่ทอดยาวไปตามถนนตุงชุง ซึ่งตัดผ่านยอดเขาสูงสองลูกและเชื่อมต่อระหว่างฝั่งทางเหนือและทางใต้ของเกาะลันเตา ข้างถนนมีชื่อภาษาจีนสลักไว้ หลังจากนั่งรถประจำทางจาก Tung Chung ขึ้นมาถึงหุบเขาสูงชัน ตอนนี้ถึงเวลาที่ขาของคุณต้องทำงานแล้ว เดินขึ้นบันไดไปทางทิศตะวันออกมุ่งสู่เส้นทางลันเตาที่มีป้ายบอกทางชัดเจน จากนั้นการเดินเขาของคุณจะเริ่มต้นขึ้น

หลังจากปีนป่ายภายใต้ร่มเงาของป่าอันเงียบสงบแล้ว เส้นทางจะพาออกไปสู่เนินเขาเปิดโล่งที่ปกคลุมด้วยหญ้า พร้อมกันนั้นคุณจะเห็นทิวทัศน์ลันเตาพีคและหาดทรายขาวบนชายฝั่งทางตอนใต้ของเกาะ ที่เบื้องล่างทางขวามือ คุณจะเห็นหาดเฉิงชาที่ทอดยาวสามกิโลเมตรและเป็นชายหาดที่ยาวที่สุดในฮ่องกง เมื่อมองออกไปในทะเล คุณอาจเห็นเรือเฟอร์รี่ความเร็วสูงระหว่างฮ่องกงและมาเก๊าแล่นผ่านเกาะลันเตาและหมู่เกาะ Soko ที่อยู่ไกลออกไป ซึ่งน่านน้ำแห่งนี้ได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานทางทะเลแห่งที่สามของฮ่องกงในปี 2022 แม้จริง ๆ แล้วเส้นทางบนเกาะลันเตาจะทอดยาวไปถึงยอดเขาซันเซ็ตพีค แต่คุณสามารถใช้ทางเลี่ยงสั้น ๆ เพื่อเดินออกจากเส้นทางและขึ้นไปยังจุดสูงสุดของภูเขาลูกนี้ได้

บนพื้นที่ราบเขียวขจีเหนือซันเซ็ตพีคมีกระท่อมหินลึกลับ 19 หลัง กระท่อมเหล่านี้อยู่ในจุดตั้งแคมป์เทือกเขาลันเตาที่สร้างขึ้นในช่วงทศวรรษ 1920 เพื่อเป็นที่พักในช่วงวันหยุดสำหรับเหล่ามิชชันนารี ซึ่งต้องขนอาหารและน้ำขึ้นไปบนเนินเขาโดยใช้เส้นทางจากหมุยวอ กระท่อมเหล่านี้ยังคงมีการใช้งานเป็นครั้งคราว ลองปีนขึ้นไปบนโขดหินที่อยู่เลยกระท่อมหลังแรกทางด้านขวา เพื่อชมทิวทัศน์อันกว้างใหญ่ของพื้นที่ราบสูงทั้งหมด ซ่อนเร้นลงไปบริเวณเนินเขาด้านล่าง มีสระน้ำฝนที่เหล่ามิชชันนารีสร้างไว้เพื่อใช้เป็นสถานที่ว่ายน้ำในช่วงฤดูร้อน

คุณสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพของหาดปุยโอวอันห่างไกลและทะเลจีนใต้ ขณะเดินเขามุ่งหน้าไปยัง Yi Tung Shan ซึ่งเป็นยอดเขาสูงอันดับสองที่อยู่บริเวณปลายสุดของพื้นที่ราบสูง ขณะเดิน คุณจะพบว่าตัวเองจมอยู่ท่ามกลางทะเลทุ่งหญ้าเงินที่ส่งเสียงเสียดสีกันแผ่วเบา ซึ่งหญ้าเงินนี้สามารถเติบโตได้สูงเท่ากับคนจริง ต้นหญ้าสีทองอร่ามท่ามกลางแสงแดดยามบ่ายคล้อยทำให้เกิดเป็นฉากหลังอันแสนโรแมนติก หลังจากนั้น เส้นทางจะพาคุณเข้าสู่ป่าหนาทึบอีกครั้งเมื่อเดินลงมาถึงบริเวณปิกนิกที่ Nam Shan

เส้นทางหมู่บ้านเก่าแก่ที่มีขั้นบันไดหินแกะสลักสวยงามทอดผ่านผืนป่าอันหนาทึบและเย็นสบายไปยัง Luk Tei Tong ซึ่งเป็นที่ตั้งของหอสังเกตการณ์สูงที่ทำจากหินและมีช่องหน้าต่างติดลูกกรงคล้ายป้อมปราการ หอสังเกตการณ์นี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอาคารประวัติศาสตร์ระดับ 3 โดยสร้างขึ้นในช่วงต้นทศวรรษ 1940 เพื่อปกป้องเกษตรกรในหมู่บ้านจากหัวขโมยและโจรสลัด ที่นี่ถูกดัดแปลงเป็นที่พักอาศัยในช่วงทศวรรษ 1950 แต่ปัจจุบันไม่มีผู้อาศัยอยู่แล้ว เส้นทางจะพามุ่งหน้าต่อไปผ่านบ้านเรือนในหมู่บ้านและริมฝั่งแม่น้ำ จนไปสิ้นสุดที่บริเวณริมน้ำของหมุ่ยหวอ

หมุ่ยหวอเป็นเมืองเล็ก ๆ ที่มีชีวิตชีวา ซึ่งทอดยาวตั้งแต่โค้งของชายหาดซิลเวอร์ไมน์เบย์ไปตามทางเดินเล่นจนถึงท่าเรือเฟอร์รี่ หลาย ๆ คนเลือกที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นหรือสิ้นสุดการเดินเขาบนเกาะลันเตา หมุ่ยหวอมีร้านอาหารมากกว่าสิบแห่งที่ให้บริการอาหารหลากหลายชนิด ตั้งแต่อาหารจีน อาหารตะวันตก ไปจนถึงอาหารไทย เนปาล และตุรกี นอกจากนี้ยังมีศูนย์อาหารปรุงสุกที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเลตั้งอยู่ใกล้กับท่าเรือเฟอร์รี่