ดร. ซุน ยัตเซ็น เป็นบุุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์จีนสมัยใหม่ ได้รับการขนานนามว่าคือบิดาแห่งการปฏิวัติจีนตั้งแต่ศตวรรษที่ผ่านมา และเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งสาธารณรัฐจีน นอกจากเส้นทางประวัติศาสตร์ของ ดร. ซุน ยัตเซ็น จะเป็นการระลึกถึงช่วงเวลาสำคัญที่เขาอยู่ในฮ่องกงแล้ว ยังเป็นมรดกทางประวัติศาสตร์และความสำเร็จของเขาอีกด้วย
ดร. ซุน เดินทางมาถึงฮ่องกงในช่วงวัยรุ่น จากนั้นจึงเข้ารับการศึกษาระดับมัธยมศึกษาและอุดมศึกษาที่นี่เป็นเวลาเก้าปี และได้ผูกมิตรกับผู้คนมากมายที่มีส่วนชักนำและตั้งปณิธานทางการเมืองร่วมกัน ในท้ายที่สุด คนเหล่านี้ก็ก่อการจลาจลเพื่อโค่นล้มการปกครองของราชวงศ์ชิง โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของชาติและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน
ถือว่าฮ่องกงได้มอบแรงบันดาลใจให้แนวความคิดต่าง ๆ ของ ดร. ซุน อย่างมาก ดร. ซุน ทำกิจกรรมส่วนใหญ่ในย่านเซ็นทรัลและย่านตะวันตก สถานที่ในเส้นทางต่อไปนี้ล้วนเป็นจุดเด่นในช่วงเวลาสำคัญเหล่านั้น และมีแผ่นจารึกที่ออกแบบโดยศิลปินท้องถิ่นเพื่อจัดแสดงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันล้ำค่าของฮ่องกง
ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเส้นทาง และแอปฯ ‘iM Guide’ ที่ช่วยนำทางคุณได้อย่างง่ายดาย
Photo Credit: Mr Benny SY Li
มหาวิทยาลัยฮ่องกง (HKU) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1911 เป็นสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่เก่าแก่ที่สุดในภูมิภาค ดร. ซุน ยัตเซ็น เข้าศึกษาตั้งแต่ปี 1887 ถึงปี 1892 ในวิทยาลัยแพทยศาสตร์จีนที่ฮ่องกง ซึ่งต่อมาได้ผสานรวมเป็นคณะแพทยศาสตร์ในมหาวิทยาลัยฮ่องกงเมื่อปี 1912 ดร. ซุน กลับมาเยี่ยมมหาวิทยาลัยฮ่องกงเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 1923 และกล่าวสุนทรพจน์ต่อสาธารณชน ณ หอประชุมใหญ่ (ปัจจุบันคือหอประชุม Loke Yew) ว่า "ฮ่องกงและมหาวิทยาลัยฮ่องกงเป็นแหล่งกำเนิดเชาวน์ปัญญาของผม"
Photo Credit: Mr Benny SY Li
หลังจากเรียนในฮาวายเป็นเวลาสี่ปี ดร. ซุน ยัตเซ็น ได้สมัครเข้าเรียนที่วิทยาลัยโออาฮู ซึ่งก่อตั้งโดยคริสตจักรคองกริเกรชันนอลของชาวอเมริกันในช่วงต้นปี 1883 และกลับไปยังบ้านเกิดของตนที่ชุยเฮิงในอีกครึ่งปีถัดมา จากนั้น ดร. ซุน ก็เดินทางมาพำนักที่ฮ่องกงจนถึงปลายปี 1883 ซึ่งในช่วงแรกเขาเข้าเรียนที่บ้านและสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า Diocesan (ปัจจุบันคือโรงเรียนชายล้วน Diocesan) ซึ่งก่อตั้งขึ้นโดยคริสตจักรแองกลิคัน ก่อนย้ายไปเรียนที่โรงเรียนรัฐบาลกลางในเดือนเมษายน 1884
Photo Credit: Mr Benny SY Li
ดร. ซุน ยัตเซ็น ก่อตั้งถงเหมิงฮุ่ย (สมาพันธ์ความร่วมมือเพื่อการปฏิวัติประชาธิปไตยจีน) ในโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี 1905 และรับหน้าที่เป็นผู้นำคนแรก ส่วนสาขาฮ่องกงได้ก่อตั้งขึ้นในปลายปีเดียวกัน และจัดตั้งศูนย์ต้อนรับบนถนนเคน ย่านโผวเฮงฟ้ง ถนนมอร์ริสันฮิลล์ ย่านลานไควฟง และถนนควีนส์ เพื่อเป็นสถานที่ปลอดภัยสำหรับนักปฏิวัติ
Photo Credit: Mr Benny SY Li
เมื่อ ดร. ซุน ยัตเซ็น เดินทางมาถึงฮ่องกงในปลายปี 1883 เริ่มแรกเขาเข้าเรียนที่บ้านและสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า Diocesan แห่งคริสตจักรแองกลิคันในฐานะนักเรียนไปกลับ เขาอาศัยอยู่ในสถานที่เทศนาของคริสตจักรคองกริเกชันนอลของชาวอเมริกัน (ปัจจุบันเป็นคริสตจักรคองกริเกชันนอลของจีน) ณ เลขที่ 2 ถนนบริดจ์ และเข้ารับพิธีศีลจุ่มที่นี่ในภายหลัง โดยใช้ชื่อคริสเตียนว่า "ยัตเซ็น (‘รีซิน’ ในภาษาจีนกลาง)" ดร. ซุน ยังอาศัยอยู่ในสถานที่เทศนาต่อ แม้จะย้ายไปเรียนที่โรงเรียนรัฐบาลกลาง
Photo Credit: Mr Benny SY Li
โรงเรียนรัฐบาลกลางก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1862 เป็นโรงเรียนมัธยมของรัฐบาลแห่งแรกที่ให้การศึกษาแบบตะวันตกในฮ่องกง ที่นี่บ่มเพาะนักเรียนชนชั้นสูงมากมายในภูมิภาคที่พูดได้สองภาษาและได้รับความรู้สมัยใหม่ รวมถึงมีทัศนคติทั้งแบบจีนและตะวันตก ดร. ซุน ยัตเซ็น เข้าเรียนในระดับมัธยมปลายของโรงเรียนแห่งนี้เมื่อวันที่ 15 เมษายน 1884 และสำเร็จการศึกษาในปี 1886
Photo Credit: Mr Benny SY Li
ในตอนที่ ดร. ซุน ยัตเซ็น ยังศึกษาด้านการแพทย์ที่ฮ่องกง เขามักไปพบปะเพื่อนสนิท คือ Yau Lit, Chan Siu-pak และ Yeung Hok-ling ที่ Yeung Yiu Kee อันเป็นร้านของตระกูล Yeung Hok-ling ณ เลขที่ 8 ถนนเกาท์ ซึ่งเป็นที่ให้พวกเขาพบปะพูดคุยได้อย่างอิสระเกี่ยวกับการเมืองและเหตุผลที่ควรปฏิวัติราชวงศ์ชิง เนื่องจากความคิดเห็นของพวกเขาก้าวล้ำเกินความคิดกระแสหลักในเวลานั้น ผู้คนจึงขนานนามพวกเขาว่า "สี่บุรุษนอกกฎหมายผู้ยิ่งใหญ่"
Photo Credit: Mr Benny SY Li
ในปี 1895 Yeung Ku-wan ดำรงตำแหน่งประธานในสำนักงานใหญ่แห่งสมาคมซิงจงฮุ่ย (Revive China Society) ที่ตั้งขึ้นใหม่ของฮ่องกง จากนั้นองค์กร Revive China Society ก็วางแผนปฏิวัติกวางโจวและฮุ่ยโจว แต่ล้มเหลวทั้งสองครั้ง นับจากปี 1900 Yeung สอนภาษาอังกฤษในบ้านพักของเขาซึ่งอยู่บนชั้นหนึ่งของอาคารเลขที่ 52 ถนนเกจ เขาถูกลอบสังหารในเดือนมกราคม 1901 โดยนักฆ่าที่รัฐบาลแห่งราชวงศ์ชิงส่งมา
Photo Credit: Mr Benny SY Li
Foo Yan Man Ser (Chinese Patriotic Mutual Improvement Association หรือ Furen Literary Society) ก่อตั้งขึ้นในปี 1892 โดย Yeung Ku-wan และ Tse Tsan-tai และครอบคลุมพื้นที่บนชั้นแรกของอาคารเลขที่ 1 ถนน Pak Tsz Lane โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่สาธารณชน แต่บ่อยครั้งก็มีการจัดประชุมเป็นการส่วนตัวที่นี่เพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นทางการเมืองและการปฏิรูปในจีน ดร. ซุน ยัตเซ็น ยังคงติดต่อกับสมาชิกของสมาคมนี้อย่างใกล้ชิด และต่อมา Yeung กับ Tse ได้เป็นสมาชิกหลักของสำนักงานใหญ่แห่งสมาคมซิ่งจงฮุ่ย (Revive China Society) ของฮ่องกง โดยที่ Yeung รับหน้าที่เป็นประธาน
Photo Credit: Mr Benny SY Li
เมื่อวันที่ 26 เมษายน 1884 Sir George Ferguson Bowen ผู้ปกครองแห่งฮ่องกง เดินทางมาเป็นประธานพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารใหม่ของโรงเรียนรัฐบาลกลางที่แยกถนนอาเบอร์ดีนและถนนฮอลลีวูด ดร. ซุน ยัตเซ็น เพิ่งเข้าเรียนที่โรงเรียนนี้ และคาดกันว่าเขาน่าจะเข้าร่วมพิธีดังกล่าว โรงเรียนแห่งนี้ย้ายที่ตั้งใหม่เมื่อปี 1889 เมื่อเปลี่ยนชื่อเป็น Victoria College แล้วเปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็น Queen’s College ในปี 1894 ในปี 1950 Queen’s College ได้ย้ายมายังสถานที่ปัจจุบันในคอสเวย์เบย์ และสถานที่ดั้งเดิมได้รับการบูรณะให้เป็น PMQ
Photo Credit: Mr Benny SY Li
ดร. ซุน ยัตเซ็น เริ่มเรียนด้านการแพทย์ที่โรงพยาบาลแคนตันของกวางโจว ในฤดูใบไม้ร่วงปี 1886 เขาย้ายไปเรียนที่วิทยาลัยแพทยศาสตร์จีน ในฮ่องกง ซึ่งอยู่ติดกับโรงพยาบาลอลิซเมโมเรียล เพื่อดำเนินการฝึกฝนทางการแพทย์อย่างต่อเนื่องในปีถัดมา ดร. ซุน สำเร็จการศึกษาด้วยคะแนนเกียรตินิยมในปี 1892 ต่อมาในปี 1912 ก็มีการรวมวิทยาลัยแห่งนี้เข้ากับมหาวิทยาลัยฮ่องกงเป็นคณะแพทยศาสตร์
Photo Credit: Mr Benny SY Li
เมื่อตอนที่ ดร. ซุน ยัตเซ็น ยังศึกษาด้านการแพทย์อยู่ในฮ่องกง เขาอาศัยอยู่ในที่พักของวิทยาลัยแพทยศาสตร์จีน ในฮ่องกง ดร. ซุน มักเข้าร่วมการชุมนุมที่จัดขึ้นที่คริสตจักรโต๋ไช่ซึ่งอยู่ติดกับโรงพยาบาล เขาได้สร้างเครือข่ายระหว่างบุคคลจากที่นี่ โดยภายหลังเครือข่ายนี้ร่วมสนับสนุนเหตุผลในการปฏิวัติของเขา ทั้งโรงพยาบาลอลิซเมโมเรียลและคริสตจักรโต๋ไช่ก่อตั้งขึ้นโดยสมาคมมิชชันนารีแห่งลอนดอน ผู้ปรารถนาจะช่วยเหลือชาวจีนในท้องถิ่นด้วยการรักษาร่างกายและเยียวยาด้านจิตวิญญาณ
Photo Credit: Mr Benny SY Li
สมาคมซิ่งจงฮุ่ย (Revive China Society) เป็นองค์กรปฏิวัติที่ก่อตั้งโดยดร. ซุน ยัตเซ็น ในฮาวายเมื่อปี 1894 มีจุดประสงค์เพื่อล้มล้างรัฐบาลแห่งราชวงศ์ชิง สำนักงานใหญ่ที่ฮ่องกงก่อตั้งขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 1895 โดยมีฉากหน้าเป็นสโมสรกู่เอนฮาง ที่อาคารเลขที่ 13 ถนนสทอนตัน โดยมี Wong Wing-sheung เป็นประธานคนแรก สมาชิกของสำนักงานใหญ่ได้เริ่มวางแผนและจุดชนวนการลุกฮือในกว่างโจว ซึ่งเป็นความพยายามแรกที่จะก่อการปฏิวัติขององค์กร
Photo Credit: Mr Benny SY Li
Heng Yin Lau เป็นหนึ่งในร้านอาหารสไตล์ตะวันตกที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของฮ่องกงในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ร้านตั้งอยู่ที่สี่แยกลินด์เฮิร์ส เทอร์เรซ และถนนพ็อตทินเจอร์ และเป็นสถานที่พบปะเป็นประจำของ ดร. ซุน ยัตเซ็น กับมิตรสหายของเขา เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการเมืองในขณะที่เขากำลังศึกษาด้านการแพทย์
Photo Credit: Mr Benny SY Li
ในปี 1899 ดร. ซุน ยัตเซ็น ออกคำสั่งให้ Chan Siu-pak ทำหนังสือพิมพ์ในฮ่องกงเพื่อเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อให้ผู้คนออกมาต่อต้านรัฐบาลแห่งราชวงศ์ชิง หนังสือพิมพ์ดังกล่าวคือไชน่าเดลี่ ซึ่งได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรกในเดือนมกราคม 1900 สำนักพิมพ์แห่งนี้ไม่เพียงให้บริการตีพิมพ์หนังสือพิมพ์ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิวัติเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดติดต่อของสมาชิกสมาคมซิ่งจงฮุ่ยและนักปฏิวัติจากสถานที่ต่าง ๆ อีกด้วย นอกจากนี้ การจลาจลที่ฮุ่ยโจวในปี 1900 ก็มีการวางแผนและบริหารจัดการที่ชั้นสองของสำนักงานแห่งนี้เช่นกัน
Photo Credit: Mr Benny SY Li
Wo Kee Chan สร้างขึ้นเพื่อเป็นบ้านพักของลูกเรือที่ชั้นสามของอาคารเลขที่ 20 ถนนดากีลาร์ แต่ต่อมาที่นี่ก็กลายเป็นฐานที่มั่นสำหรับภารกิจการปฏิวัติ ทั้งยังเป็นสถานที่วางแผนและบริหารจัดการการลุกฮือในกว่างโจวเมื่อปี 1903 ซึ่งนำโดย Tse Tsan-tai และได้รับการสนับสนุนทางการเงินโดย Li Ki-tong พ่อค้าชาวฮ่องกงผู้ร่ำรวย แต่ก็ล้มเหลวในท้ายที่สุด นาย Tse ถอนตัวออกจากการปฏิวัติและก่อตั้งเซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการปฏิรูปและการปฏิวัติ
Photo Credit: Mr Benny SY Li
นอกจาก ดร. ซุน ยัตเซ็น จะสำเร็จการศึกษาในฮ่องกงแล้ว เขายังใช้นครแห่งนี้เป็นฐานทัพการปฏิวัติอีกด้วย สิ่งที่เขาได้เห็นและได้ยินในดินแดนแห่งนี้ก่อให้เกิดแนวคิดการปฏิวัติที่สำคัญอย่างมากต่อรัฐบุรุษชาวจีนผู้ยิ่งใหญ่ท่านนี้.