เดอะพีคแทรมของฮ่องกงเริ่มให้บริการในปี 1888 โดยเป็นกระเช้าไฟฟ้าแห่งแรกของเอเชียที่เชื่อมต่อระหว่างเดอะพีคกับเซ็นทรัล แต่เดิมเดอะพีคแทรมให้บริการแก่ผู้ว่าการอาณานิคมและผู้คนที่อาศัยอยู่ ณ สถานที่หรูหราบนเดอะพีค แต่ในภายหลังได้ให้บริการรับส่งผู้โดยสารหลายสิบล้านคนและกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำของเมือง การเดินทางที่ลาดชันที่มีระยะทาง 1.27 กม. ซึ่งสูง 28 ถึง 396 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล และมีความลาดชันตั้งแต่ 4 ถึง 25.7 องศา ตามปกติจะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 10 นาที โดยระหว่างการเดินทาง ผู้โดยสารจะได้รับชมทิวทัศน์อันงดงามและมีโอกาสในการถ่ายภาพสวย ๆ

การออกแบบเป็นรูปทรงทั่งตีเหล็กอันโดดเด่นของเดอะพีคทาวเวอร์นั้นยากที่จะลืมเลือน อาคารซึ่งตั้งอยู่เหนือสถานีพีคแทรมอัปเปอร์เป็นที่ตั้งของร้านอาหาร ร้านค้าขึ้นชื่อ แหล่งบันเทิงเชิงโต้ตอบ และ Sky Terrace 428 ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด โดยจะเป็นจุดชมวิวที่สูงกว่า 428 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เปิดให้ชมทิวทัศน์แสนตระการตาของทั่วทั้งเมืองได้ 360 องศา นอกจากนี้ เดอะพีคทาวเวอร์ยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุซโซต์ฮ่องกง และร้านของว่างมากมายที่ให้บริการขนมและเครื่องดื่มที่สดใหม่ เช่น วาฟเฟิลไข่สไตล์ฮ่องกง กรุณาเข้าไปที่เว็บไซต์ทางการสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ที่บนชั้น 3 ของห้างสรรพสินค้าพีคแกลเลอเรียมีจุดชมวิวซึ่งมองเห็นทิวทัศน์แสนงดงามของเมือง ภายในอาคารนี้มีทั้งร้านขายของที่ระลึกจำนวนมาก ร้านกาแฟหรือร้านฉาชานเท่งสไตล์ฮ่องกงที่หลากหลาย รวมไปถึงร้านอาหารที่เสิร์ฟบะหมี่เกี๊ยวสูตรกวางตุ้งและอาหารตะวันตก นอกจากนี้ ยังมีร้านกาแฟที่เสิร์ฟเครื่องดื่มและของว่าง เช่น ทาร์ตไข่ ซุปสมุนไพรสูตรกวางตุ้ง และชานมไข่มุกสไตล์ไต้หวัน

ร้านอาหาร The Peak Lookout ที่แต่เดิมใช้ชื่อว่า Old Peak Cafe ตั้งอยู่ภายในอาคารชั้นเดียวซึ่งเป็นอาคารทางประวัติศาสตร์ระดับ 2 เดิมทีสถานที่นี้เป็นที่ทำงานและที่พักอาศัยสำหรับวิศวกรชาวอังกฤษระหว่างการก่อสร้างเดอะพีคแทรมในปี 1888 ตั้งแต่ปี 1902 เป็นต้นมา ได้ใช้สถานที่แห่งนี้สำหรับการเก็บเกี่ยว ก่อนที่จะได้รับการดัดแปลงในปี 1947 ให้กลายเป็นร้านกาแฟกลางแจ้งในสวน อาคารชั้นเดียวที่มีหลังคาชันนี้แสดงให้เห็นถึงรูปแบบสถาปัตยกรรมของกระท่อมในชนบทอังกฤษจากช่วงปลายยุควิกตอเรียและยุคเอ็ดเวิร์ด โดยมีกำแพงหิน หน้าต่างโค้ง และปล่องไฟหินที่สะดุดตา

ทางเดินลาดยางวนรอบเดอะพีคที่มีระยะทาง 3.5 กม. และมีความสูงกว่า 552 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุดบนเกาะฮ่องกงนี้ จะมอบประสบการณ์การชมทิวทัศน์อันงดงามของเมืองแบบพาโนรามา ขณะเดียวกันก็สามารถเดินอย่างสบาย ๆ ได้จนครบภายในหนึ่งชั่วโมง แต่ผู้ที่ชื่นชอบการลงภาพในอินสตาแกรมอาจต้องการใช้เวลานานกว่านั้น เพื่อถ่ายภาพทิวทัศน์ของเมืองที่เปลี่ยนไปจากช่วงเวลากลางวันเป็นช่วงพระอาทิตย์ตกและเป็นช่วงกลางคืน เส้นทางที่เรียงรายไปด้วยต้นไม้เหมาะแก่การถ่ายภาพที่งดงามนี้ทอดผ่านบรรดาสัตว์และพืชพันธุ์ที่อุดมสมบูรณ์ รวมไปถึงพื้นที่ป่าและพืชพันธุ์ที่เขียวชอุ่มที่สุดของเกาะ ซึ่งเป็นที่อยู่ของผีเสื้อหลากหลายสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็น ผีเสื้อพันธุ์ Dark Edged Snow Flat (Tagiades menaka), พันธุ์ Red Lacewing (Cethosia biblis) ที่พบได้น้อย และพันธุ์ Chinese Windmill (Byasa alcinous) ที่หายากเป็นอย่างยิ่ง

ถนนแคบ ๆ ล้อมรอบเดอะพีคสร้างขึ้นระหว่างปี 1913 ถึงปี 1914 โดยตั้งชื่อตาม Sir Frederick Lugard ผู้ว่าการคนที่ 14 ของฮ่องกง ซึ่งเป็นจุดที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับชมอาทิตย์ตกดินและทิวทัศน์ยามค่ำคืนของอ่าววิคตอเรีย และในฤดูใบไม้ผลิ คุณจะได้ชมเมืองที่ปกคลุมไปด้วยหมอก ตัวอย่างการพัฒนาบางส่วนในเมืองในช่วงแรก ๆ ยังคงหลงเหลืออยู่บนถนนสายนี้ เช่น อาคารสีขาวทางประวัติศาสตร์ระดับ 2 ที่ปลายถนนลูการ์ด 1 ซึ่งสร้างขึ้นราวปี 1927 เพื่อเป็นสถานที่ทำงานของ Peak Tramways และยังคงเป็นที่ตั้งของสำนักงานของบริษัท บ้านพักสไตล์โคโลเนียลโรมันโบราณ 2 ชั้นที่เก่าแก่ระดับหนึ่ง ตั้งอยู่บนถนนลูการ์ด 27 สร้างขึ้นในปี 1914 หลังจากที่สถาปนิกชาวอังกฤษ Lennox Godfrey Bird ซื้อที่ดินผ่านการประมูลในราคาเพียง 2,160 ดอลลาร์ฮ่องกง ถือเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่เก่าแก่ที่สุดบนถนนเส้นนี้

เดินขึ้นเนินเขาตามถนนเมาต์ออสตินเป็นเวลา 20 นาทีไปยัง Victoria Peak Garden ซึ่งแต่เดิมเป็นบ้านพักตากอากาศของ Mountain Lodge ผู้ว่าราชการฮ่องกง ปัจจุบันเป็นพื้นที่สาธารณะมีทางเดินคดเคี้ยว รวมถึงมีสนามหญ้าและศาลาที่งดงาม ซึ่งเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนและผ่อนคลายพร้อมกับที่ถ่ายเซลฟี่และเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์อันงดงามของเมืองเบื้องล่าง จุดชมวิวนี้เผยทิวทัศน์อันงดงามทางใต้ของฮ่องกง ในวันที่อากาศแจ่มใส จะมองเห็นเกาะรอบนอกบางแห่งได้อีกด้วย ก่อนที่จะเข้าไปในสวน อย่าลืมแวะชม Gate Lodge ที่ได้รับการประกาศให้เป็นอนุสรณ์สถาน โดยสร้างขึ้นระหว่างปี 1900 และ 1902 สำหรับผู้ที่ต้องการเดินเขาอย่างไม่เร่งรีบ สามารถใช้เส้นทาง Governor's Walk อันรื่นรมย์ได้ โดยปฏิบัติตามป้ายในสวน ซึ่งจะมีทิวทัศน์ที่สวยงามของพื้นที่บริเวณนั้นให้ชื่นชม