ท่าเรือข้ามฟาก Central Star Ferry ตั้งอยู่ในย่านอ่าววิกตอเรียอันโด่งดัง เบื้องหลังเป็นแนวตึกระฟ้าที่ส่องแสงวูบวาบ อยู่ตรงข้ามตึกสูงอีกเป็นเทือกริมฝั่งเกาลูน นี่คือภาพจำของเกาะฮ่องกงซึ่งเป็นศูนย์กลางยุคใหม่ของการท่องเที่ยวและการค้า แต่เมื่อก้าวเท้าลงเรือข้ามฟากสู่เกาะลัมมา อีกเพียง 30 นาทีต่อมาคุณจะได้พบโลกใหม่อันแสนแตกต่าง

Ellie Hann ครูอนุบาลที่ย้ายจากเมืองบาธในประเทศอังกฤษมาฮ่องกง อาศัยที่เกาะลัมมาได้ 5 ปีแล้ว “ฉันชอบอยู่บนเกาะห่างไกลจากความพลุกพล่านในตัวเมืองฮ่องกงน่ะค่ะ” เธอบอก “ที่นี่มีป่ากว้างใหญ่ สัตว์ป่านานาชนิด หาดสวยๆ เส้นทางเดินเขาเด็ดๆ ก็อยู่ใกล้ๆ แถมมีร้านอาหาร Lamma Rainbow ที่อร่อยกว่าร้านไหนๆ” ในบรรดาร้านอาหารหลากหลายประเภท มีคาเฟ่บรรยากาศดีๆ เสิร์ฟชาและอาหาร แถมด้วยการชมสัตว์ป่าอย่างเพลิดเพลิน อย่าง Herboland ที่เป็นทั้งร้านชาและไร่สมุนไพร

ลัมมาเป็นเพียงหนึ่งในเกาะรายรอบ 263 เกาะของฮ่องกง ซึ่งแต่ละแห่งต่างมีวิถีชีวิตแสนสบายที่เป็นเอกลักษณ์ เกาะลันเตา เป็นเกาะขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาเกาะต่าง ๆ และเป็นที่ตั้งของสนามบิน แต่เกาะแห่งนี้ยังคงมีสิ่งล้ำค่าที่ซุกซ่อนอยู่เนืองแน่น ตั้งแต่ชุยโฮวานที่เงียบสงบทางใต้ หมู่บ้านประมงไท่โอ ทางตะวันตก มีบ้านเรือนที่สร้างบนเสาไม้เหนือผิวน้ำ และชาวบ้านทำอาหารว่างง่าย ๆ แสนอร่อยอย่างหอยนางรมย่างและ "husband cake" ขนมอบรสอร่อยสอดไส้ถั่วแดง ถั่วลิสง และงา 

ที่เที่ยวยอดนิยมอย่าง พระใหญ่และอารามโป๋หลิน ก็มีประสบการณ์หลากหลายให้สัมผัส นักท่องเที่ยวหลายคนอาจจะนั่งเคเบิลคาร์ Ngong Ping 360 เพื่อขึ้นเขา แต่ยังมีเส้นทางเดินเขา Lantau ที่ตั้งต้นจากท่าเรือข้ามฟาก Mui Wo ที่มีทัศนียภาพทะเลและเทือกเขากว้างไกลให้ชมตลอดทาง

ความหลากหลายของเกาะลันเตาเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ Annora Ng คนพื้นที่ตัดสินใจพาเพื่อนจากต่างบ้านต่างเมืองมาพักผ่อนที่นี่ และเล่าความประทับใจจากการเดินเขารวมทั้งการที่ได้เรียนรู้วัฒนธรรมต่างๆ “บนเกาะลันเตามีอะไรต่ออะไรมากมายให้พบเห็น” เธอเล่า “มีวัดมีศาลเจ้า การอนุรักษ์มรดกเก่าแก่ อาหารท้องถิ่น คุณอาจใช้เวลาทั้งวันชมวัดสักแห่ง อีกวันก็ไปเที่ยวที่หมู่บ้าน ผู้คนที่นี่ก็เรื่อยๆ สบายๆ ฉันเลยคิดว่าเป็นการแนะนำฮ่องกงที่ไม่เลวเลย”

แม้การเดินทางไปเกาะลัมมาและลันเตาจะสะดวกเพราะมีเรือข้ามฟากและรถไฟ ยังมีเกาะอื่นอีกมากมายที่อยู่ไกลออกไป แม้ต้องวางแผนเพิ่มขึ้น แต่ประสบการณ์การเดินทางนั้นคุ้มค่าแน่นอน Connie 'Maoshan' Yuen นักวาดภาพประกอบและอดีต “นักอนุรักษ์ด้านสถาปัตยกรรม ได้พบเสน่ห์ของเกาะ Peng Chau เป็นครั้งแรกเมื่อมามาดูแลแมวที่แฟลตริมทะเลของผู้เป็นป้า บนเกาะนี้มีคนอาศัยอยู่บางตา ห่างจากเขตเซ็นทรัลประมาณ 40 นาที “เวลาบนเกาะเล็กๆ แห่งนี้เหมือนถูกหยุดเอาไว้” เธอออกความเห็น “เงียบ สงบ แต่ก็มีชีวิตชีวาในตัวเอง สิ่งที่ฉันชอบทำก็คือไปนั่งเล่นดูเรือผ่านไปผ่านมาค่ะ” Yuen เล่า

ชาวเกาะขายปลาที่จับมาใหม่ๆ บ้างก็นั่งกินติ่มซำด้วยกันทุกเช้า หากไม่นัดพบกันที่จัตุรัสบนถนนเส้นหลักเส้นเดียวบนเกาะ ไม่ก็ไป วัด Lung Mo ที่เชื่อกันว่าใครที่ได้สัมผัสรูปสลักแม่มังกรและฐานจะมีโชคดี

และยังมี เกาะ Po Toi ที่มีหาดสวรรค์อันห่างไกลผู้คนและร้านอาหารทะเลรสเลิศ ร้านอาหารทะเล Ming Kee (หรือ ร้านอาหาร Ming Kee) และเกาะเชิงเชา นอกจากจะเป็นสถานที่จัดการแข่งขัน “Bun Scrambling Competition” ที่ผู้แข่งขันจะแข่งกันปีนเสายักษ์เพื่อเก็บแป้งนึ่งที่ห้อยไว้รอบยอดเสา เกาะเชิงเชายังเป็นสวรรค์แห่งกีฬาทางน้ำ

เกาะแก่งเหล่านี้คือสิ่งที่ย้ำเตือนถึงอดีตของฮ่องกง ในยุคที่หมู่บ้านชาวประมงกินอาณาบริเวณต่างๆ แทนตึกระฟ้า โดยปัจจุบันกลายเป็นสถานตากอากาศอันเงียบสงบ มีภูมิทัศน์ธรรมชาติงดงามและเบื้องลึกของวิถีชีวิตท้องถิ่นที่ไม่ควรมองข้าม