ทัศนียภาพงดงามที่เผยให้เห็นเนินเขาเขียวขจี หน้าผาสูงชัน และอ่าวที่ประปรายไปด้วยเกาะน้อยใหญ่ ทำให้ฮ่องกงเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับนักปีนเขาที่หลงใหลธรรมชาติ รวมถึงนักวิ่งเทรล 

ผู้ที่ชื่นชอบกีฬาวิ่งสามารถทดสอบความอดทนบนเส้นทางเดินเขามากมายที่มีอยู่ในฮ่องกง ซึ่งบางครั้งอาจมีระยะทางหลายร้อยกิโลเมตร อย่างไรก็ตาม ยังมีโอกาสมากมายสำหรับผู้เริ่มต้นเล่นกีฬานี้เช่นกัน ตามคำกล่าวของ Law Chor Kin แชมป์วิ่งเทรลชาวฮ่องกงวัย 45 ปี ซึ่งเข้าร่วมการแข่งขันวิ่งระยะอัลตรามากกว่า 100 รายการตลอด 22 ปีที่ผ่านมา และครั้งหนึ่งเขาเคยพิชิตยอดเขาที่สูงที่สุด 100 ยอดของฮ่องกงในเวลาสามวัน

"ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนชื้นของฮ่องกง การวิ่งเทรลจึงค่อนข้างใช้พลังงานมาก" Law กล่าว "อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์กีฬาและอุปกรณ์เสริมในปัจจุบันมีความก้าวหน้ามากขึ้น เช่น เจลให้พลังงานและถุงยังชีพแบบพกพา ซึ่งสามารถช่วยเติมพลังงานในแบบที่ดูดซึมได้ง่ายขึ้น"

"ปัจจุบัน มีผู้ฝึกสอนที่มุ่งเน้นกีฬาชนิดนี้มากขึ้นเช่นกัน" เขากล่าวเสริม "ดังนั้น ผู้เริ่มต้นก็จะสามารถได้ประโยชน์มากขึ้นจากการฝึกของพวกเขา" 

นอกจากการทำงานเป็นเจ้าหน้าที่สำรวจประจำสำนักทะเบียนที่ดินของรัฐบาลฮ่องกงแล้ว Law ยังได้ลงแข่งขันวิ่งมาราธอนเป็นประจำจนถึงปี 2000 ซึ่งเป็นปีที่เขาลงแข่งครั้งแรกในรายการ Oxfam Trailwalker ประจำปีของฮ่องกง หนึ่งในกิจกรรมวิ่งเทรลระดับนานาชาติที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก โดยเป็นการระดมทุนเพื่อบรรเทาความยากจนในแอฟริกาและเอเชีย การแข่งขันที่ได้รับการสนับสนุนดังกล่าวกำหนดให้ทีมที่ประกอบด้วยสมาชิกสี่คนพยายามพิชิตเส้นทาง MacLehose Trail ระยะทาง 100 กม. ในเขตดินแดนใหม่ภายใน 48 ชั่วโมง

Law ตกหลุมรักการวิ่งเทรลทันทีในระหว่างการแข่งขันครั้งแรก "ตั้งแต่นั้นมา ผมก็เข้าร่วมการแข่งขัน Trailwalker ของฮ่องกงทุกปี" เขากล่าว นอกเหนือจากการเป็นหนึ่งในสมาชิกทีมที่ชนะการแข่งขันในปี 2015 แล้ว Law ยังชนะการแข่งขันประเภททีมในงาน Oxfam Trailwalker ระยะ 100 กม. อีกห้ารายการในออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เขาเคยแข่งขันในพื้นที่ที่มีสภาพอากาศสุดขั้ว เช่น ทะเลทรายโกบีที่อยู่ทางตอนเหนือของจีน และหุบเขามรณะในแคลิฟอร์เนีย

"ก่อนที่ผมจะรู้จักการวิ่งเทรล ผมแทบจินตนาการไม่ออกว่าคน ๆ หนึ่งจะวิ่งระยะไกลแบบไม่หยุดพักเป็นเวลาหลายชั่วโมงได้อย่างไร" เขากล่าว "แต่ทุกอย่างเป็นไปได้ เมื่อคุณฝึกฝนร่างกายอย่างเพียงพอ สิ่งที่ทำให้ผมมีความสุขมากที่สุดคือ ผมสามารถทำในสิ่งที่คิดว่าตัวเองไม่มีวันทำสำเร็จได้"

ปกติแล้วการวิ่งเทรลจะเป็นการวิ่งในระยะทางที่ไกลมากเพียงลำพัง แต่เมื่อเป็นไปได้ Law ก็เลือกที่จะฝึกฝนร่างกายกับเพื่อน ๆ ที่มีความสนใจเหมือนกันในช่วงสุดสัปดาห์ ซึ่งเป็นเวลาที่พวกเขาสามารถจดจ่อกับเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงได้ เช่น การเพิ่มความเร็ว การขึ้นเนิน หรือความอดทน Law ฝึกฝนเป็นประจำบนแนวสันเขาที่มีระยะทาง 10 กม. ของเส้นทางวิลสัน ในอุทยานแห่งชาติปาซินหลิงที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเขตดินแดนใหม่ โดยเส้นทางนี้จะพาไต่ระดับขึ้นลงไปตามยอดเขาแปดยอด ซึ่งรู้จักกันในชื่อ "โป๊ยเซียน" ตามความเชื่อของจีน 

เส้นทางที่พาไปยัง ไต๋โหมวซาน ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของฮ่องกง คุณจะได้เห็นวิวแบบพาโนรามาของเส้นขอบฟ้าฮ่องกงและอ่าววิคตอเรียที่น่าทึ่งจนทำให้เขาแวะเวียนกลับมาชมอยู่เสมอ ๆ เขากล่าว "การได้เห็นทั้งเมืองและทะเลพร้อมกัน เป็นภาพที่คุณหาชมไม่ได้อีกแล้วจากที่อื่น"

นักวิ่งเทรลยังสามารถดื่มด่ำกับทัศนียภาพอันงดงามของเกาะลันเตา ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของฮ่องกง ในระหว่างการแข่งขันประจำปีอีกหนึ่งรายการอย่าง TransLantau ที่จัดขึ้นโดย UTMB ซึ่งเป็นการแข่งขันที่มีระยะทางแตกต่างกัน เพื่อให้เหมาะกับนักวิ่งทุกระดับความสามารถ

"ทุกครั้งที่ผมวิ่งในรายการ TransLantau ผมต้องเริ่มต้นตอนกลางคืน ซึ่งจะรู้สึกง่วงเล็กน้อย" Law กล่าว "ยอดเขาลันเตาพีคที่ปกคลุมไปด้วยกลุ่มปุยเมฆในระหว่างการแข่งขันช่างเป็นภาพที่ยากจะลืมเลือน ประหนึ่งว่าผมกำลังย่างเท้าเข้าสู่สรวงสวรรค์"

เขากล่าวว่า เส้นทางที่กำหนดไว้ในรายการ TransLantau โดย UTMB ช่วยเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้ชื่นชมทัศนียภาพชายฝั่งหินผาอันน่าตะลึงงันของเกาะ รวมถึงจุดสำคัญรอบ ๆ ไท่โอ ซึ่งเรียกขานกันว่า "สี่สัตว์ผู้พิทักษ์" อันได้แก่ เฉิงซาน (เนินเขาช้าง), ฝูซาน (เนินเขาเสือโคร่ง), ซีซาน (เนินเขาสิงโต) และจิมเฟิงซาน (เนินเขาฟีนิกซ์)

"ระยะที่ท้าทายที่สุดน่าจะเป็นเส้นทางจากกึงซานถึงไท่โอ" เขากล่าว "การเดินทางไปตามสันเขาด้วยความเร็วสูงเป็นเรื่องที่ท้าทาย เพราะต้องใช้แรงกายและความมุ่งมั่นอย่างมาก"

5 เคล็ดลับจาก Law Chor Kin สำหรับนักวิ่งมือใหม่

1. ส่วนใหญ่แล้ว เส้นทางวิ่งในฮ่องกงเป็นเส้นทางคอนกรีต ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อเข่าและกล้ามเนื้อขาได้ ดังนั้น คุณต้องฝึกฝนมาอย่างถูกต้อง
2. คุณต้องแน่ใจว่าตัวเองฝึกฝนมาอย่างเพียงพอ เพื่อช่วยเพิ่มอัตราการฟื้นตัวเมื่อคุณวิ่งข้ามเนินเขา
3. ศึกษาเส้นทางแข่งขันของคุณให้ดีก่อนลงแข่งขันวิ่งเทรลครั้งแรก เนื่องจากเส้นทางที่ทับซ้อนกันอาจทำให้คุณหลงทางได้
4. เมื่อฝึกซ้อมสำหรับการแข่งขัน อย่าลืมทำความคุ้นเคยกับช่วงสุดท้ายของเส้นทาง เนื่องจากนักวิ่งมักจะหมดแรงก่อนถึงเส้นชัยเมื่อระดับสมรรถภาพร่างกายลดลง
5. อย่าใช้พลังงานเยอะตั้งแต่ช่วงแรก เนื่องจากคุณต้องออมแรงไว้รับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดซึ่งอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพในการวิ่งของคุณ เช่น สภาพอากาศเลวร้ายหรือกล้ามเนื้อเป็นตะคริว